จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

การเลี้ยงกุ้งเครฟิชเชิงพาณิชย์

การเลี้ยงกุ้งเครฟิชเชิงพาณิชย์

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน, วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554


ลุงฉะอ้อน เผนโคกสูง เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด จ.นครราชสีมา เจ้าของผลงานกบคอนโด มีการคิดค้นวิธีการเลี้ยงแบบใหม่ เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ซึ่งล่าสุดนำกุ้งเครฟิชมาเลี้ยงจนประสบความสำเร็จ เพราะนอกจากจะเลี้ยงเป็นกุ้งสวยงามในตู้ปลาแล้ว ยังสามารถเลี้ยงเชิงพาณิชย์รายได้งามอีกด้วย

การเลี้ยงกุ้งเครฟิชเชิงพาณิชย์  

การเตรียมบ่อ
ลักษณะสร้างบ่อ   ใช้ไม้ไผ่ปักเป็นหลักไว้ 4 มุมแล้วเตรียมพลาสติกใส หรือพลาสติกสีดำขนาดยาว 4 เมตร กว้าง 2 เมตร ลึก 50 เซนติเมตรนำมุมพลาสติกทั้ง 4 มุมมามัดติดกับหลักไม้ไผ่ทำเป็นบ่อและยกให้ขอบบ่อสูงขึ้นหลังจากใส่น้ำ ยกให้สูงประมาณ 50 เซนติเมตร
ขั้นตอนการเลี้ยง
         
เมื่อได้บ่อแล้วให้ปล่อยน้ำเข้าไปในระดับน้ำสูงประมาณ 40 เซนติเมตรนำกุ้งเครฟิชพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์จำนวน 1 คู่ มาปล่อยในบ่อ
         
การเลี้ยงกุ้งเครฟิชสำหรับตัวเมียจะมีการวางไข่ทุก4-6 เดือน เมื่อเลี้ยงพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ได้อายุประมาณ 4-6 เดือนให้เริ่มตักกุ้งขึ้นมาดูว่ามีการออกไข่หรือยังถ้ามีการออกไข่แล้วให้นำกุ้งแยกออกมาโดยนำมาใส่ไว้ในตะกร้าสี่เหลี่ยมที่มีรูระบาย ใช้ตะกร้า 2 ใบประกบกันนำกุ้งไปอยู่ข้างในแล้วมัดทุ่นลอยน้ำไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อให้กุ้งสลัดไข่ออกป้องกันกุ้งกินไข่ตัวเอง (กุ้งจะต้องเลี้ยงในที่เงียบเพื่อช่วยในการวางไข่หากมีเสียงอึกทึกจะทำให้กุ้งเวลาออกไข่มันจะกินไข่ตัวเองจนหมดเพราะกลัวว่าไข่จะได้รับอันตราย)

ขนาดบ่อยาว 4 เมตร กว้าง 2 เมตร ลึก 50 ซ.ม.จะปล่อยลูกกุ้งได้ 500 ตัวกุ้งจะมีการขยายตัวทุก 6 เดือน และลอกคราบออกเอง ใน 1 ปีกุ้งจะวางไข่ 2 ครั้ง ถ้าเป็นกุ้งสาวรุ่นแรกจะได้ไข่ที่ออกมาเป็นลูกกุ้งประมาณ 200-300 ตัวหากเป็นกุ้งที่โตเต็มที่อายุ1 ปี จะได้ไข่ออกมาเป็นลูกกุ้งประมาณ 400-500 ต่อตัวเมื่อเลี้ยงอายุครบ 12 เดือน จะได้กุ้งน้ำหนักประมาณ 7-9 ตัว ต่อ 1 กิโลกรัม
อาหารอาจจะให้ไรแดงก็ได้ พอกุ้งมีอายุประมาณ 2 เดือน ก็จะกินอาหารประเภทเนื้อปลานิลสับ เศษเนื้อปลาทู หรือปลาเล็กสับละเอียดก็ได้ให้เดือนละครั้งก็พอ
          
นอกจากการเลี้ยงแบบบ่อพลาสติกยกสูงแล้วยังสามารถเลี้ยงในนาข้าวได้ด้วยเช่นกัน  กุ้งเครนฟิชสามารถจำหน่ายได้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ1,200 บาทหรือขีดละประมาณ 120 บาท ในการเลี้ยงเมื่อจดทะเบียนการเลี้ยงแบบพาณิชย์มีการรับรองเรื่องการเลี้ยงส่งออกจะสามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 1,500 บาท

วิธีสังเกตกุ้งที่กำลังจะลอกคาบคับ

ผม ลองแล้วได้ผลคับ เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่เลี้ยงกุ้งรวมกันหลายๆตัวคับ ก็คือว่า ให้ดูจากส่วนหัวของกุ้ง มันจะเริ่มเปิดออกจากลำตัว (น้อยมากต้องดูดีๆ) แต่ถ้าเทียบกับกุ้งตัวอื่นจะเห็นได้ชัด ไม่ต้องดูทุกตัวคับ ดูแต่ตัวที่มันไม่ได้ลอกนานแล้ว ถ้าสังเกตเห็นแล้ว อีกประมาณ 6-8 ชั่วโมงมันจะลอกคับ ให้นำมันแยกจากเพื่อนๆมันได้เลยคับ แล้วกุ้งจะลอกออกมาแล้วสมบูรณ์คับ แต่ถ้าวิธีนี้เพื่อนรู้กันแล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะคับ ขอบคุณคับที่อ่าน

 
ข้อมูลโดย http://tongcrayfish.blogspot.com/
ที่มา http://siamgramming.blogspot.com/2011/06/blog-post_22.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น